Browse By

Category Archives: Sport and Game

การป้องกันอาการบาดเจ็บจากการฝึกหนัก

การป้องกันอาการบาดเจ็บจากการฝึกหนัก กายภาพและการยืดเหยียดในกีฬายกน้ำหนัก บทนำ: “ความเจ็บปวดคือส่วนหนึ่งของการฝึก แต่บาดเจ็บคือสิ่งที่เราป้องกันได้” ในโลกของกีฬายกน้ำหนัก ทุกคนต่างเข้าใจดีว่า “การฝึกหนัก” คือเส้นทางสู่พลังและชัยชนะแต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บ — ตั้งแต่กล้ามเนื้อฉีกเล็กน้อยไปจนถึงหมอนรองกระดูกเคลื่อน สิ่งที่แยก “นักยกมืออาชีพ” ออกจาก “ผู้ฝึกที่หยุดกลางทาง” ไม่ใช่เพียงพละกำลังแต่คือ การเข้าใจร่างกายตัวเอง และมีระบบ กายภาพบำบัด (Physical Therapy) รวมถึง การยืดเหยียด (Stretching) ที่ถูกต้อง “คุณไม่สามารถยกได้หนักขึ้น หากร่างกายไม่พร้อมจะรับมัน”— โค้ชทีมชาติไทย, ศูนย์ฝึกหัวหมาก บทความนี้จะพาไปเข้าใจว่า ทำไมอาการบาดเจ็บถึงเกิดขึ้นบ่อยในกีฬายกน้ำหนักและเราจะสามารถ “ป้องกันล่วงหน้า” ด้วยหลักกายภาพและการยืดเหยียดแบบมืออาชีพได้อย่างไร 1. ทำไมกีฬายกน้ำหนักถึงบาดเจ็บได้ง่าย กีฬายกน้ำหนักเป็นกีฬาที่ใช้แรงสูงสุดของร่างกายในระยะเวลาสั้นการเคลื่อนไหวทุกจังหวะต้องการความแม่นยำของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นเอ็น 🔹 สาเหตุหลักของการบาดเจ็บ ประเภท ลักษณะ ตัวอย่าง Overload

การใช้เทคโนโลยี Motion Capture เพื่อวิเคราะห์ท่าทางในการยกน้ำหนัก

การใช้เทคโนโลยี Motion Capture เพื่อวิเคราะห์ท่าทางในการยกน้ำหนัก บทนำ: “เหล็กไม่โกหก แต่สายตาคนเราอาจพลาดได้” ในอดีต โค้ชนักยกน้ำหนักต้องอาศัย “สายตาและประสบการณ์” ในการวิเคราะห์ท่าทางการยกเช่น ดูว่าขาเหยียดเร็วไปไหม? บาร์เบลออกจากแนวศูนย์ถ่วงหรือไม่?แต่ในโลกยุคใหม่ — เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง ระบบที่เรียกว่า Motion Capture (MoCap) หรือ “การจับการเคลื่อนไหว”ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์ ท่าทาง (Posture) และ จังหวะการยก (Kinematics)ของนักกีฬาในระดับทีมชาติและโอลิมปิก “โค้ชอาจเห็นความผิดพลาด 1 มิลลิเมตรไม่ชัดเจน แต่ Motion Capture เห็นได้ทันที”— โค้ชทีมชาติไทย, ศูนย์ฝึกหัวหมาก 1. Motion Capture คืออะไร? Motion Capture (MoCap) คือเทคโนโลยีที่ใช้ “กล้องความเร็วสูง” หรือ

การยกน้ำหนักกับการลดไขมันและเสริมกล้าม หลักโภชนาการที่ถูกต้อง

การยกน้ำหนักกับการลดไขมันและเสริมกล้าม หลักโภชนาการที่ถูกต้อง บทนำ: ยกเหล็กเพื่อรูปร่าง… ไม่ใช่แค่เพื่อเหรียญ หลายคนยังเข้าใจผิดว่า “การยกน้ำหนัก” เป็นกีฬาของคนตัวใหญ่เท่านั้นแต่ความจริงแล้ว ยกน้ำหนักคือหนึ่งในวิธี ลดไขมันและเสริมกล้ามเนื้อ ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกฟิตเนส เพราะทุกครั้งที่บาร์เบลลอยขึ้นเหนือศีรษะ ไม่ได้แค่สร้างพลัง แต่ยัง “เร่งการเผาผลาญ” ในร่างกายไปอีกหลายชั่วโมงหลังการฝึก (EPOC – Excess Post-Exercise Oxygen Consumption) “การยกเหล็กคือคาร์ดิโอของคนฉลาด – มันทำให้กล้ามใหญ่ขึ้น แต่ไขมันลดลงพร้อมกัน”— โค้ชฟิตเนสทีมชาติไทย ในบทความนี้ เราจะพาไปเจาะลึกวิธีใช้ “การยกน้ำหนัก” เพื่อสร้างรูปร่างที่แข็งแรง เผาผลาญไขมันอย่างยั่งยืน พร้อมหลักโภชนาการที่ถูกต้องสำหรับทั้งชายและหญิง 1. พื้นฐานของการยกน้ำหนักเพื่อเปลี่ยนรูปร่าง การยกน้ำหนัก (Weight Training) เป็นการฝึกที่ใช้แรงต้าน (Resistance) เพื่อให้กล้ามเนื้อหดตัวและขยายตัวซ้ำ ๆ จนเกิดการ “กระตุ้นการเติบโตของเส้นใยกล้ามเนื้อ (Hypertrophy)”

การจัดตารางฝึกซ้อมแบบ Periodization สำหรับนักกีฬายกน้ำหนัก

การจัดตารางฝึกซ้อมแบบ Periodization สำหรับนักกีฬายกน้ำหนัก บทนำ: “ยกหนักทุกวัน ไม่ได้แปลว่าจะแข็งแรงที่สุด” ในโลกของกีฬายกน้ำหนัก การฝึกอย่างหนักเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสิ่งที่ทำให้นักยกระดับโลกแตกต่าง คือ “ระบบ” ที่อยู่เบื้องหลัง —ระบบการจัดตารางฝึกอย่างมีแบบแผน หรือที่เรียกว่า “Periodization” “การฝึกยกเหล็กก็เหมือนการเล่นหมากรุก ต้องวางแผนล่วงหน้าเป็นเดือน เพื่อให้ถึงวันแข่งด้วยสภาพร่างกายที่ดีที่สุด”— โค้ชทีมชาติไทย Periodization คือศาสตร์ที่ผสมผสาน ฟิสิกส์ของแรงกล้ามเนื้อ กับ ชีววิทยาการฟื้นตัวเพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ สะสมพลัง แล้วระเบิดออกในเวลาที่ต้องการที่สุด — วันแข่งขัน 1. Periodization คืออะไร? Periodization (การแบ่งรอบการฝึก) คือการจัดตารางฝึกซ้อมให้มี “รอบการพัฒนา” ที่ชัดเจนโดยแบ่งการฝึกออกเป็นช่วง (Phase) ที่มีเป้าหมายต่างกัน เช่น พลัง ความเร็ว ความทน หรือการฟื้นฟู เป้าหมายของมันคือ “ฝึกหนักในเวลาที่ควรหนัก

กีฬายกน้ำหนัก วิธีหายใจ และการใช้ Val Salva Maneuver

กีฬายกน้ำหนัก วิธีหายใจ และการใช้ “Val Salva Maneuver” เพื่อเพิ่มแรงยก บทนำ: “ยกด้วยแรงลมมากกว่าแรงกล้าม” ในกีฬายกน้ำหนัก นักกีฬาทุกคนรู้ดีว่า “กล้ามใหญ่” ไม่ได้แปลว่ายกได้มากเสมอไปเพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเหล็กหนักหลายร้อยกิโลกรัม คือ ศิลปะแห่งการหายใจ การควบคุมลมหายใจคือสิ่งที่แยก “นักยกทั่วไป” ออกจาก “นักยกระดับโลก”ทุกเหรียญทองบนเวทีโอลิมปิก ล้วนมีจังหวะการหายใจที่ถูกคำนวณอย่างละเอียด หนึ่งในเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดในโลกการยก คือสิ่งที่เรียกว่า “Val Salva Maneuver” (วัลซาลวา มาเนอเวอร์) —เทคนิคการกลั้นลมหายใจที่ช่วยสร้างแรงดันภายในลำตัว (Intra-abdominal Pressure) เพื่อเพิ่มความมั่นคงและแรงส่งในจังหวะยก “การหายใจที่ถูกคืออาวุธลับของนักยก ถ้าหายใจผิดจังหวะ เหล็กจะชนะคุณเสมอ”— โค้ชทีมชาติไทย 1. หายใจในกีฬายกน้ำหนัก – มากกว่าการเอาอากาศเข้าออก โดยทั่วไปคนเราจะหายใจด้วยกล้ามเนื้อหน้าอกแต่สำหรับนักยกน้ำหนัก การหายใจต้องมาจาก “ท้อง” เพื่อสร้างแรงดันและสมดุลของร่างกาย 🔹 หลักการหายใจแบบนักยก

กีฬายกน้ำหนัก การฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core Stability) สำหรับนักยก

กีฬายกน้ำหนัก การฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core Stability) สำหรับนักยก บทนำ: “เหล็กไม่ได้ยกด้วยแขน แต่มันยกด้วยแกนกลาง” ในกีฬายกน้ำหนัก นักกีฬาหลายคนเข้าใจผิดว่า “กล้ามแขน” หรือ “กล้ามขา” คือหัวใจของการยกแต่ในความจริงแล้ว กล้ามเนื้อที่สำคัญที่สุดคือ กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) เพราะทุกแรงที่ถูกส่งจากพื้น ผ่านขา ขึ้นมาที่แขน ล้วนต้องผ่าน “แกนกลาง” ทั้งหมดหากแกนกลางไม่มั่นคง แรงที่สร้างไว้จะสูญเสียทันที — เหมือนท่อตันที่น้ำไม่สามารถไหลได้เต็มแรง “Core คือสะพานของพลัง ถ้ามันอ่อน ทุกแรงจะหายไปกลางทาง”— โค้ชทีมชาติไทย ในบทความนี้ เราจะลงลึกถึง “ศาสตร์ของ Core Stability” สำหรับนักยกน้ำหนัก ทั้งในแง่เทคนิค ชีวกลศาสตร์ โปรแกรมฝึกจริง และเสียงจากผู้ฝึกที่ยืนยันว่า “เมื่อแกนกลางแข็งแรง เหล็กจะเบาขึ้นจริง” 1.